สวนหิน” จัดอย่างไรให้ถูกฮวงจุ้ย
การจัดสวนภายในบ้านนั้นมีหลากหลายสไตล์ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสวนสไตล์บาหลีที่เน้นความเป็นธรรมชาติของต้นไม้ สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นความเรียบง่ายเเละเงียบสงบ ส่วนสวนสไตล์ไทยๆ จะเน้นพันธุ์ไม้มงคลแบบผสมผสาน ซึ่งการจัดสวนไม่ว่าจะสไตล์ไหนก็มีข้อดีทั้งนั้น
เเต่ในตำราฮวงจุ้ยระบุไว้ว่าการจัดสวนที่ต้องระมัดระวังเลยก็คือ “สวนหิน” หรือการนำหินมาใช้กับเป็นส่วนประกอบกับสวน ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?
“หิน” ในทางฮวงจุ้ยจะแทนความหมายของความนิ่ง แข็งกระด้าง ไร้ชีวิต ถ้าสวนที่มีหินมากเกินไปจะก่อให้เกิดสภาพเเวดล้อมที่เป็นหยิน ทำให้คนในบ้านขาดพลังชีวิต (หยาง) ได้ ดังนั้นการจัดสวนหินในบ้านจะต้องมีองค์ประกอบอย่างอื่นเข้ามาช่วย ไม่ใช่ใช้หินเพียงอย่างเดียว
องค์ประกอบที่ว่าก็คือต้นไม้กับน้ำ หลักฮวงจุ้ยจะเน้นความเป็นหยินเเละหยางที่สมดุลกัน หินให้ความรู้สึกนิ่ง ส่วนต้นไม้เเละน้ำจะให้ความรู็สึกเคลื่อนไหว
การนำต้นไม้มาเป็นองค์ประกอบในการจัดสวนหินนั้นจะเน้นต้นไม้ที่มีลักษณะพุ่มเตี้ยเพื่อปกคลุมหิน ไม่ให้หินดูโดดเด่นจนเกินไป ต้นไม้จะช่วยลดความแข็งของหินลงได้มาก เพราะสีเขียวของต้นไม้ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อตัดกับสีของหินที่ออกโทนสีเทา น้ำตาล
ส่วนการนำน้ำมาเป็นส่วนประกอบของสวนหินถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะน้ำให้ความรู็สึกอ่อนโยน ช่วยลดความเเข็งกระด้างของหินได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ น้ำตก น้ำล้น ใช้ได้ทั้งนั้น
สำหรับข้อควรระวังในการจัดสวนหิน ตามหลักฮวงจุ้ยเเล้วก็คืออย่านำหินที่มีลักษณะร้ายมาจัดสวน เเล้วหินร้ายๆ นี่มันหน้าตาเป็นยังไง?...เป็นหินที่แหลมคมและมีขนาดใหญ่ ลักษณะของหินที่ดีต้องกลมเเละมันวาว
ที่นี้ก็ได้แนวทางไปจัดสวนหินกันเเล้วใช่มั้ยเอ่ย บอกเลยว่าสายชอบธรรมชาติเเต่ไม่อยากดูเเลเยอะ สวนหินนี่แหละเป็นหนึ่งทางเลือกเลย ดูเเลง่าย ฝนตกก็ไม่ต้องกลัวเลอะเทอะเหมือนสวนดิน หรือไม่ต้องตัดหญ้าบ่อยเหมือนสวนที่เป็นสนามหญ้า!
จัดสวนอย่างไรให้ถูกหลักฮวงจุ้ย?
กระแสการจัดสวนกำลังมาในช่วงนี้ ชาวสนุก!ดูดวงคนไหนที่อยากลองจัดสวนในบ้านดูบ้าง ลองมาดูเทคนิคจัดสวนสวยให้ถูกหลักฮวงจุ้ยง่ายๆ ได้ดังนี้
ตามหลักของฮวงจุ้ยนั้น การกำหนดพื้นที่ในการจัดสวนภายในบ้านถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา การที่ตำราฮวงจุ้ยระบุว่าสวนครัวอยู่ทางทิศตะวันออกของบ้าน ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า ทิศตะวันออกเป็นทิศที่พระอาทิตย์ขึ้น และแสงแดดในตอนเช้าจะช่วยส่งเสริมให้ต้นไม้ให้มีความเขียวสด งอกงาม เพราะแดดในตอนเช้าเป็นจะแดดที่ไม่แรงจนเกินไป
- การจัดสวนต้องมีองค์ประกอบครบทั้ง 5 ธาตุ
สวนที่ดีนั้น จะต้องประกอบด้วยดินที่สมบูรณ์ (ธาตุดิน) น้ำตก น้ำพุ อ่างบัว บ่อปลา (ธาตุน้ำ) ต้นไม้ (ธาตุไม้) แสงแดดส่องถึง (ธาตุไฟ) และที่สำคัญ จะต้องมีการตกแต่งสวนอย่างสวยงาม หรือ ที่เรียกว่า ธาตุทอง ไม่ใช่ปล่อยให้สวนในบ้านรกรุงรังกลายเป็นป่าไป
- ต้องหันหน้าน้ำตกเข้าบ้านเสมอ
ในการแต่งสวน โดยมี “น้ำ” เข้ามาเกี่ยวข้อง ตำราฮวงจุ้ยบอกไว้ว่าควรจะต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในกรณีของน้ำตก ที่มีการไหลของน้ำไม่เหมือนอย่างอื่น หน้าน้ำตก จะต้องหันเข้าบ้านเสมอ ไม่ควรเอาหันออกนอกบ้าน เพราะนั้นจะหมายถึง “เงินไหลออก” เนื่องจากน้ำแทนความหมายในเรื่องการเงิน โชคลาภ นั่นเอง นี่เป็นกฎเกณฑ์ที่ควรต้องจำไว้ในการตกแต่งสวน
- ถ้าวางก้อนหินผิดจะเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง
การใช้ “หิน” มาแต่งสวนควรต้องระวังให้มากเช่นกัน โดยเฉพาะก้อนหินใหญ่มีความหายนั้นในทางฮวงจุ้ยว่า “อุปสรรค” เพราะฉะนั้นการเลือกก้อนหินในการตกแต่งสวน ควรเลือกที่มีลักษณะกลมมน ไม่ควรเป็นเหลี่ยมคม หรือ มีมุมแหลม และก้อนหินที่มีรู ก็เป็นลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกัน ส่วนตำแหน่งในการวาง ส่วนใหญ่เลยจะนำไปวางบริเวณมุมบ้าน ไม่ควรวางที่หน้าบ้าน หรือ บริเวณที่ตรงกับประตูบ้าน
- บ้านเล็กไม่ควรปลูกต้นไม้ใหญ่
บ้านเล็กที่มีขนาดพื้นที่จำกัดอย่างบ้านทาวน์เฮาส์ ตึกแถว ในการจัดสวน ไม่ควรเอาต้นไม้ใหญ่มาปลูก เพราะจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ต้นไม้ใหญ่จะทำลายฐานบ้าน และกิ่งก้านของต้นไม้ก็ยังทำลายตัวบ้านอีกด้วย
- เลี่ยงไม้ที่มีหนามออกในการแต่งสวน
ในทางฮวงจุ้ย ต้นไม้ที่มีหนามแหลม จะถือเป็นข้อห้ามอยู่แล้ว เพราะหนามที่แหลมคมนั้น จะส่งผลกระทบต่อผู้อาศัยได้ แต่บางทีจะเห็นว่าต้นไม้อย่าง ต้นโป๊ยเซียน ต้นเฟื่องฟ้า ทำไมถึงไม่ห้าม?
ความจริงแล้ว ไม้หนามอย่างโป๊ยเซียนหรือเฟื่องฟ้า ก็เข้าข่ายเป็นต้นไม้ต้องห้ามเช่นกัน เพราะมีหนามแหลม เพียงแต่ชื่อของต้นไม้เป็นชื่อมงคล และต้นเฟื่องฟ้าส่วนใหญ่ก็นิยมปลูกที่ริมรั้วหรือกำแพง ซึ่งนั้นกลับเป็นผลดีในแง่การป้องกันสิ่งที่ไม่ดีเข้าบ้าน
และเมื่อนำแต่ละมาวิเคราะห์แล้ว จะเห็นว่าทุกประเด็นมีคำตอบตามเหตุและผล ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านฮวงจุ้ยในอดีตได้ศึกษาธรรมชาติ และวิเคราะห์ปัญหา เพื่อถ่ายทอดเป็นความรู้ให้คนรุ่นหลังได้นำไปใช้ต่อไป