หลักการทำงานของเครื่องปั่นไฟ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า
เครื่องปั่นไฟ หรือ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Generator ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอาคารบ้านเรือน, บริษัทห้างเรือนหรือในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการใช้ไฟฟ้าในปริมาณที่มาก หรือประสบกับปัญหาไฟฟ้าตกหรือดับบ่อย นับว่าเป็นอุปกรณ์เครื่องมืออันทันสมัย ที่สามารถตอบโจทย์ผู้คนและธุรกิจในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้ จึงจะขอนำพาคุณผู้อ่านทุกท่าน มารู้จักกับหลักการทำงานของเครื่องปั่นไฟ มาติดตามกันได้เลยครับ
เครื่องปั่นไฟนั้น มีหลักการทำงานในเชิงวิศวกรรม โดยการแปลงพลังงานกลให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะอาศัยการหมุนวนของขดลวดตัดกับสนามแม่เหล็ก หรืออาศัยการหมุนวนของสนามแม่เหล็กตัดกับขวดลวด โดยสามารถจำแนกเครื่องปั่นไฟ ออกได้เป็น 2 ชนิดคือ
เครื่องปั่นไฟกระแสสลับ (Alternator)
เครื่องปั่นไฟกระแสตรง (Dynamo)
ซึ่งชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโรงงานอุตสาหกรรมหรือบริษัทห้างร้านต่างๆ นั่นก็คือ เครื่องปั่นไฟกระแสสลับ หรือ Dynamo นั่นเอง เนื่องจากเครื่องปั่นไฟประเภทนี้มีการให้กระแสไฟฟ้าที่สม่ำเสมอ และสามารถนำมาประยุกต์การใช้งานได้หลากหลาย โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ
- เครื่องต้นกำลัง จะเป็นส่วนที่ให้กำเนิดพลังงานกลของเครื่องปั่นไฟออกมา ซึ่งมีหลากหลายแหล่งพลังงานทั้ง กังหันน้ำ, กังหันไอน้ำ, กังหันแก๊ส ฯลฯ
- ตัวผลิตพลังงานไฟฟ้า หรือ Generator มีหลักการทำงานคือ การอาศัยการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กเพื่อให้กำเนิดพลังงานในเครื่องปั่นไฟ โดยมีหลากหลายรูปแบบ ดังนี้
รูปแบบที่ 1 แบบทุ่นหมุน
มีหลักการทำงานโดยการอาศัยการหมุนของขดลวดทองแดง ซึ่งมีการพันอยู่บริเวณเส้นแกนเพลาหมุนตัดบริเวณเส้นแรงแม่เหล็ก ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำไฟฟ้าขึ้นที่ปลายของขดลวดทองแดง
รูปแบบที่ 2 แบบขั้วแม่เหล็กหมุน
มีหลักการทำงานโดยการอาศัยการหมุนของขั้วแม่เหล็กที่อยู่บนเพลา ซึ่งจะทำให้เส้นแรงแม่เหล็กตัดบริเวณขดลวดทองแดงที่ติดอยู่ตรงเปลือก ทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าบริเวณขดลวดทองแดงขึ้น
รูปแบบที่ 3 แบบไม่มีการใช้แปรงถ่าน Bl Type
เป็นรูปแบบการทำงานเพื่อให้กำเนิดพลังงานในเครื่องปั่นไฟโดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่มีการใช้แปรงถ่าน Brushless Type เพื่อเหนี่ยวนำพลังงานของสนามแม่เหล็ก อันจะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำที่สม่ำเสมอและสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย เครื่องปั่นไฟ ที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดโดยทั่วไป จะมีส่วนของตัวต้นกำลัง ซึ่งนิยมใช้ในรูปแบบของ “เครื่องยนต์” โดยแบ่งออกได้เป็น เครื่องยนต์เบนซิน, เครื่องยนต์ดีเซลและเครื่องยนต์ที่ใช้แก๊ส ซึ่งคุณสามารถเลือกรูปแบบการใช้งานเพื่อตอบสนองความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ
และนี่ก็คือ “หลักการทำงานของเครื่องปั่นไฟ” ที่นำมาฝากกันในวันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องปั่นไฟได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ และสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องปั่นไฟประเภทต่างๆ คุณสามารถขอคำแนะนำและเลือกซื้อได้ที่ บริษัท เทนเดอร์ จำกัด เพราะที่นี่เราคือผู้นำในผลิตภัณฑ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รวมถึงงานบริการและอะไหล่เกี่ยวกับเครื่องปั่นไฟที่ครบครันที่สุดครับ
ดูแลรักษาเครื่องปั่นไฟอย่างไรให้ถูกวิธี
นอกจากคุณจะศึกษาคู่มือการใช้งานของเครื่องปั่นไฟโดยละเอียด เพื่อให้การทำงานของเครื่องปั่นไฟมีประสิทธิภาพมากที่สุดแล้วนั้น วิธีการบำรุงรักษาเครื่องปั่นไฟอย่างถูกวิธีก็มีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว ที่จะทำให้เครื่องปั่นไฟของคุณมีอายุการใช้งานที่ยืนยาวและคุ้มค่ามากที่สุด
1. ก่อนการตรวจสอบและดูแลรักษาเครื่องปั่นไฟของคุณทุกครั้ง คุณจะต้องทำการปิดสวิตซ์ไฟและปิดระบบการจ่ายไฟของเครื่องปั่นไฟก่อนเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องยนต์ ซึ่งอาจจะทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดเองขณะทำการตรวจเช็คได้
2. ในทุกการใช้งานตลอดระยะเวลา 20 ชั่วโมงของการใช้งานเครื่องปั่นไฟ คุณจะต้องตรวจสอบและดูแลรักษาเครื่องปั่นไฟ ดังนี้
- ตรวจสอบระดับน้ำมันหล่อลื่นของเครื่องยนต์ โดยระดับน้ำมันหล่อลื่นของเครื่องปั่นไฟที่เหลือ จะต้องไม่มีตะกอนหรือคราบดำปรากฏให้เห็น และจะต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องยนต์ทุกครั้งก่อนการใช้งาน เพื่อเป็นการบำรุงรักษาสภาพเครื่องยนต์ภายในให้มีสภาพดีอยู่เสมอ
- ทำความสะอาดหม้อน้ำกลั่นในเครื่องปั่นไฟโดยการใช้ผ้าแห้งเช็ด และทำการตรวจสอบสภาพน้ำกลั่น ซึ่งจะต้องมีความใสบริสุทธิ์ ไม่มีตะกอนหรือเปลี่ยนสี
- หลังจากการใช้งานทุกครั้ง ในบริเวณสายไฟหรือขั้วต่อในเครื่องปั่นไฟจะต้องทำการหมุนขั้วสายไฟให้แน่น และใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ
- สายพานของเครื่องปั่นไฟควรใส่น้ำมันหล่อลื่นทุกครั้งหลังการใช้งาน และควรเปลี่ยนสายยางทันทีหากสายยางชำรุดเสียหาย
3. ในส่วนของหม้อน้ำรังผึ้งด้านนอกของเครื่องปั่นไฟ หลังจากการใช้งาน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดทำความสะอาดทุกครั้ง เพื่อเป็นการลดอุณหภูมิและป้องกันฝุ่นละออง
4. ในทุกๆ 3 เดือน หรือการใช้งาน 250 ชั่วโมง จะต้องมีวิธีการดูแลรักษาเครื่องปั่นไฟ ดังนี้
- ทำการถ่ายน้ำมันหล่อลื่นของเครื่องปั่นไฟ
- เปลี่ยนไส้กรองของน้ำมันหล่อลื่นในเครื่องปั่นไฟ
- ทำความสะอาดไส้กรองภายใน
- ตรวจสอบท่อสายยางและเหล็กรัดท่อในเครื่องปั่นไฟหากชำรุดให้ทำการเปลี่ยนทันที
- ตรวจสอบสภาพน๊อตของเครื่องปั่นไฟให้หนาแน่นอยู่เสมอ หากชำรุดให้ทำการเปลี่ยนทันที
5. ในทุกๆ 6 เดือน หรือการใช้งาน 500 ชั่วโมง จะต้องมีวิธีการดูแลรักษาเครื่องปั่นไฟ ดังนี้
- ทำการเปลี่ยนไส้กรองเชื้อเพลิงของเครื่องปั่นไฟ
- ทำการเปลี่ยนไส้กรองอากาศของเครื่องปั่นไฟ
และนี่ก็คือ “ดูแลรักษา “เครื่องปั่นไฟ” อย่างไรให้ถูกวิธี” ที่นำมาฝากกันในวันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานเครื่องปั่นไฟทุกท่านนะครับ และสำหรับผู้ที่สนใจเครื่องปั่นไฟประเภทต่างๆ คุณสามารถขอคำแนะนำและเลือกซื้อได้ที่ บริษัท เทนเดอร์ จำกัด เพราะที่นี่เราคือผู้นำในผลิตภัณฑ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รวมถึงงานบริการและอะไหล่เกี่ยวกับเครื่องปั่นไฟที่ครบครันที่สุด